ในช่วงปี 2564 ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกต้องผ่านความท้าทายหลายอย่าง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กินเวลามายาวนานนับปี ทำให้เกิดการชะลอตัวในด้านเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีเมื่อมีการควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้นผนวกเข้ากับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐบาลส่งผลให้มีความฟื้นตัวจากเดิม ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงแนวโน้มธุรกิจค้าส่งในอนาคต ว่าจะมีการเติบโตหรือมีโอกาสอย่างไรบ้าง
จากการคาดการณ์ของธนาคารทีเอ็มบี ได้ประเมินธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกทั่วไปของไทยในปี 2565 ว่ามีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น 5% ชะลอตัวลงจากปีก่อนที่ขยายตัว 8.5% ซึ่งเกิดขึ้นจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวลง อีกทั้งการเข้ามาของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ที่ลดการพึ่งพาธุรกิจค้าส่งลง เพราะเป็นกลุ่มทุนใหญ่ที่มีเครือข่ายสาขาจำนวนมาก ทำให้มีอำนาจต่อรองกับผู้ผลิตและตัวแทนจัดจำหน่ายโดยตรง ซึ่งส่งผลกระทบให้ธุรกิจค้าส่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาต้องปรับโมเดลธุรกิจ จากเดิมที่ผู้ค้าส่งเน้นขายไปยังธุรกิจด้วยกัน (B2B) ก็มีการปรับตัวเน้นไปขายสู่กลุ่มลูกค้าทั่วไปมากขึ้น ผ่านการลดปริมาณการสั่งซื้อขั้นต่ำ อย่างในตลาดค้าส่งบางแห่ง อาจกำหนดการซื้อสินค้าขั้นต่ำเพียง 3 ชิ้นหรือการอนุญาตให้ลูกค้าทั่วไปซื้อสินค้าคละภายในร้านได้จนถึงขั้นต่ำที่กำหนด ซึ่งวิธีการนี้สามารถช่วยให้ผู้ค้าส่งเข้าถึงลูกค้าทั่วไปได้ง่ายขึ้น และลูกค้าก็สามารถที่จะซื้อสินค้าในราคาขายส่งได้ง่ายกว่าเดิม ไม่จำเป็นจะต้องซื้อผ่านร้านค้าตัวแทนหรือธุรกิจค้าปลีกเท่านั้น กล่าวคือรูปแบบธุรกิจของผู้ค้าส่งได้ปรับเปลี่ยนมาเป็น B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) มากขึ้น ซึ่งข้อดีคือการเข้าถึงลูกค้าทั่วไปหรือสามารถที่จะเสนอโปรโมชั่นหรือส่วนลดโดยตรงได้ รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่งยังสามารถเก็บข้อมูลและนำข้อมูลมาวิเคราะห์แนวโน้มเทรนด์จากผู้บริโภคปลายทางได้ (End Users) จึงสามารถที่จะผลิตสินค้าหรือคัดเลือกสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้การซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์หรือ E-Commerce platform กลายมาเป็นช่องทางหลักในการสั่งซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคยุคใหม่ จึงเปิดโอกาสให้ธุรกิจค้าส่งสามารถขยายตลาดผ่านช่องทาง Digital Platform หรือ Marketplace ต่างๆ อย่างไรก็ตาม การที่ธุรกิจค้าส่งขยายตลาดนี้เอง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีกเพราะเป็นการเร่งการแข่งขันในตลาดให้สูงขึ้นมาเป็นอย่างมาก
นอกเหนือจากธุรกิจค้าส่งทั่วไปแล้ว เมื่อดูแนวโน้มธุรกิจค้าส่งในอนาคตจากทั่วโลก จะพบว่าอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อธุรกิจค้าส่ง นอกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คือ สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะเรื่องของราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ที่ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างมีบทบาทในด้านมหาอำนาจด้านพลังงานของโลกและสินค้าเกษตร จึงส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าและการจัดส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มผู้ค้าส่งและผู้ส่งออกอาจจะต้องมีต้นทุนในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นและมีความเสี่ยงทางการค้าในแง่ของอัตราแลกเปลี่ยนที่มีแนวโน้มจะผันผวนเป็นอย่างมาก ในท้ายที่สุดอาจส่งผลต่อต้นทุนและกำไรของผู้ค้าส่งได้ รวมถึงสถานการณ์ดังกล่าวยังส่งผลโดยตรงกับสินค้าอุปโภค-บริโภคภายในประเทศที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่งควรติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดนี้อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ดี ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 และความขัดแย้งนี้เป็นปัจจัยหลักต่อธุรกิจค้าส่ง ทว่าสำหรับธุรกิจค้าส่งในประเทศไทยมีแนวโน้มที่สามารถจะเติบโตอย่างยั่งยืน เนื่องจากปัจจุบันนี้ได้มี AEC TRADE CENTER-PANTIP WHOLESALE DESTINATION ศูนย์ค้าส่งรูปแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่สนใจและเข้ามาสนับสนุนธุรกิจค้าส่ง และผู้บริโภคทั่วไป ผ่านการรวบรวมพันธมิตรอุตสาหกรรมในวงการอาหารและบริการชั้นนำและจากต้นน้ำมาไว้ในที่นี้ที่เดียว
พร้อมเครื่องมือ Solution Service Center เครื่องมือช่วยขายสุด Exclusive ช่วยส่งเสริมให้กับกลุ่มธุรกิจค้าส่ง และยังมีพื้นที่สนับสนุนผู้ขายและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจให้ยั่งยืนและมั่นคง จึงช่วยให้ธุรกิจค้าส่งสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น พร้อมมีพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนให้คำปรึกษาต่อผู้ค้าส่งที่สนใจขยายธุรกิจ รวมถึงยังมีพันธมิตรจากประเทศจีนอย่างอี้อู เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นเมืองแห่งการค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาเปิดพื้นที่หน้าร้านและคอยให้ปรึกษา ภายใต้ชื่อ YIWU SELECTION THAILAND SHOWCASE เป็นการเปิดประตูการค้าระหว่างตลาดไทยกับตลาดจีนโดยตรง เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจและกลุ่มคนทั่วไปได้เลือกสรรสินค้าในราคาต้นทางได้เลย ไม่ต้องกังวลกับต้นทุนแอบแฝงที่ตามมา หรือสินค้าไม่ตรงปก พร้อมที่ปรึกษาที่คอยดูแลทุกขั้นตอน ที่สำคัญเรื่องภาษาและการสื่อสารจะไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป
นอกจากนี้ทางศูนย์ฯยังรองรับช่องทางออนไลน์ด้วยเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นค้าส่งอย่าง PhenixBox ซึ่งเป็นเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นค้าส่งแห่งแรกและแห่งเดียวของไทย ที่มาในรูปแบบ Omni Channel ที่ช่วยให้ลูกค้าหลายล้านคนทั่วโลกสามารถเข้าถึงสินค้าได้จากทุกที่ สร้างโอกาสการขายสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง มีทางเลือกและราคาคุ้มค่าให้กับผู้ซื้อ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ซื้อยุคใหม่ที่สามารถมองหาสินค้าที่ดีได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
ผู้ที่อยากจะเริ่มต้นธุรกิจค้าส่งออนไลน์สามารถเปิดหน้าร้านออนไลน์ฟรี…วันนี้ที่ https://aectradecenter-th.com/whyExhibit/#registerexhibit
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
AEC TRADE CENTER-PANTIP WHOLESALE DESTINATION
💻 Website: https://aectradecenter-th.com/
💻 Website: https://www.phenixbox.com/
👥 Facebook: https://www.facebook.com/aecpantip
📩 Inbox: https://www.facebook.com/messages/t/aectradecenter.th
💬 Line: @aecpantip
📞 : 061-416-6790, 065-950-5986
อ้างอิง
- https://www.posttoday.com/economy/news/593921
- https://www.bangkokbiznews.com/business/966059
- https://www.bangkokbiznews.com/business/990902
- https://www.krungsri.com/th/research/industry/industry-outlook/wholesale-retail/modern-trade/io/io-modern-trade-21
- https://www.prachachat.net/finance/news-877664
- https://www.theguardian.com/business/2022/feb/24/gas-and-oil-prices-surge-amid-fears-of-global-energy-shortage-russia-ukraine