“ยี่ปั๊ว” คือคำที่หลายคนได้ยินบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นคำที่ยืมมาจากภาษาจีน โดยมีความหมายคือ “ผู้ค้าส่ง” ในตลาด ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญที่จะนำสินค้าจากผู้ผลิต (เถาปั๊ว) มาเพื่อขายให้กับร้านขายปลีกหรือซาปั๊ว จนไปถึงผู้บริโภคลำดับสุดท้าย โดยในบทความนี้จะพาทุกคนมารู้จัก “ยี่ปั๊ว” คือใคร ทำหน้าที่อะไร พร้อมแนะนำประเภทผู้ค้าส่งว่ามีกี่ประเภท เพื่อให้เข้าใจกลไกตลาดมากยิ่งขึ้น
ยี่ปั๊วหรือ ผู้ค้าส่งคืออะไร?
ยี่ปั๊วหรือผู้ค้าส่ง คือผู้ประกอบกิจการขายสินค้าและบริการให้กับผู้ซื้อที่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปขายต่อหรือนำไปใช้เพื่อประกอบธุรกิจ โดยแต่ละครั้งจะมีปริมาณการสั่งซื้อจำนวนมาก เพื่อให้ได้ราคาสินค้าต่ำกว่าตลาดทั่วไป ซึ่งยี่ปั๊วหรือผู้ค้าส่งจะได้กำไรต่อชิ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในบางครั้งยี่ปั๊วหรือผู้ค้าส่งก็อาจทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตหรือเป็นนายหน้าตัวแทนสินค้าที่รับมาจากผู้ผลิตมาอีกครั้งเพื่อกระจายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าต่างๆ โดยกลุ่มลูกค้าหลักของยี่ปั๊วหรือผู้ค้าส่งจะเป็นร้านค้าปลีกหรือซาปั๊วที่นำไปขายให้กับลูกค้าทั่วไปหรืออาจจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่นำสินค้าเหล่านั้นไปใช้เพื่อผลิตหรือแปรรูปสินค้าอีกรอบก่อนนำไปจัดจำหน่าย โดยเราสามารถแบ่งผู้ค้าส่งได้เป็น 3 ? ประเภทดังนี้
- ผู้ค้าส่งอิสระ คือผู้ประกอบการธุรกิจทั่วไปที่ดำเนินธุรกิจค้าส่ง จะไม่มีส่วนในการผลิตสินค้า แต่จะทำหน้าที่ประสานระหว่างผู้ผลิตสินค้าและอาจมีความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกัน สามารถต่อรองซื้อสินค้าจากผู้ผลิตหรือโรงงานโดยจะถือครองกรรมสิทธิ์ของสินค้านั้นๆ และนำมาจำหน่ายให้กับผู้ค้าปลีกได้ในราคาส่งหรือราคาถูก เน้นปริมาณการขายจำนวนมาก
- ตัวแทนนายหน้าค้าส่ง คือผู้ที่ไม่ได้ถือครองกรรมสิทธิ์ในสินค้าเหล่านั้น แต่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการนำผู้ซื้อและผู้ขายมาพบกันหรือเป็นผู้เจรจาให้เกิดการซื้อขายสินค้า ผ่านการอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่มีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าหรือต่อรองใดๆ โดยจะได้ผลตอบแทนคือค่า Commission สำหรับกรณีที่การเจรจาประสบผลสำเร็จ
- ผู้ค้าส่งที่เป็นผู้ผลิต คือผู้ผลิตสินค้าที่มีแผนกขายแยกออกมาเพื่อทำหน้าที่ในการขายสินค้าให้แก่ผู้ค้าปลีก
บทบาทและความสำคัญของผู้ค้าส่ง
บทบาทของผู้ค้าส่งนั้นถือว่าสำคัญต่อกลไกตลาดอย่างมาก เนื่องจากเป็นตัวกลางที่ช่วยให้ผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกสามารถดำเนินกิจการได้อย่างราบรื่น ประหยัดทรัพยากรและต้นทุน อีกทั้งยังส่งเสริมให้ตลาดเติบโตอย่างยั่งยื่นได้อีกด้วย ซึ่งสามารถแบ่งบทบาทและความสำคัญได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
1.ประโยชน์และความสำคัญต่อผู้ผลิตหรือโรงงาน
- ผู้ค้าส่งจะทำหน้าที่เป็นผู้กระจายสินค้าจากร้านค้าส่งไปสู่ร้านค้าปลีกจำนวนมาก โดยเมื่อเทียบกับการที่ผู้ผลิตจะต้องลงทุนสร้างทีมขายเพื่อกระจายสินค้าเองหรือค้นหาและจัดการกับลูกค้าเองแล้ว ถือว่าคุ้มค่าและประหยัดงบกว่า
- ผู้ค้าส่งสามารถที่จะจัดส่งสินค้าให้กับร้านค้าปลีกได้รวดเร็วกว่าโรงงานผู้ผลิต จึงทำให้สามารถกระจายสินค้าได้เร็วและดีกว่า บางครั้งอาจมีการกระจายไปยังตลาดขายส่งหรือตลาดค้าส่งต่างๆ อีกด้วย
- ผู้ค้าส่งสามารถที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อให้แก่ผู้ผลิตได้ เนื่องจากผู้ค้าส่งจะเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ค้าปลีก ทำให้สามารถรู้ทิศทางและแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคได้
- ผู้ค้าส่งจะเป็นผู้รับความเสี่ยงของสินค้าที่ได้สั่งซื้อบางประเภทไว้ เช่น ค่าเก็บรักษา กรณีสินค้าสูญหายหรือเสื่อมสภาพ
2.ประโยชน์และความสำคัญต่อผู้ค้าปลีกหรือลูกค้ารายย่อย
- ผู้ค้าส่งจะเป็นผู้คัดเลือกสินค้าให้มีความหลากหลายตามความต้องการของร้านค้าปลีก ทำให้สินค้าในตลาดมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งบางครั้งร้านค้าปลีกไม่จำเป็นต้องไปติดต่อผู้ผลิตจำนวนมาก เพื่อค้นหาสินค้าที่ต้องการ แต่สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านผู้ค้าส่งรายเดียวได้เลย
- ผู้ค้าส่งช่วยให้ผู้ค้าปลีกไม่ต้องแบกรับปริมาณการสั่งซื้อสินค้าราคาส่งจำนวนมาก เพราะจะเข้ามาแบ่งขายให้ผู้ค้าปลีกรายย่อยในปริมาณที่เล็กลงว่าเดิม
- ผู้ค้าส่งสามารถช่วยผู้ค้าปลีกทางด้านการเงินได้ เช่น การสั่งสินค้าแบบรวมออเดอร์จะช่วยเพิ่มอำนาจในการต่อรองได้ รวมถึงการชำระเงินแบบรับสินค้าก่อนจ่ายเงินทีหลัง (Credit term) ทำให้ผู้ค้าปลีกไม่จำเป็นต้องชำระเงินทันที
จะเห็นได้ว่าผู้ค้าส่งหรือยี่ปั๊วถือเป็นกลุ่มคนที่สำคัญต่อตลาด ถ้าขาดผู้ค้าส่งในตลาดไปจะส่งผลต่อกลไกตลาดอย่างมาก ในปัจจุบันนี้ได้มี AEC TRADE CENTER – PANTIP WHOLESALE DESTINATION ศูนย์ค้าส่งรูปแบบใหม่ ครบวงจร แห่งแรกและแห่งเดียวของไทยที่รวมสินค้าที่มีคุณภาพเข้ามาไว้เพื่อสนับสนุนผู้ค้าส่ง ด้วยเครื่องมือสุด Exclusive ช่วยส่งเสริมและรองรับกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆให้กับกลุ่มผู้ค้าส่ง เช่น Business Matching หรือกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ, ห้องสตูดิโอเพื่อให้ผู้ค้าส่งสามารถไลฟ์ขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ (Live Streaming) ห้องประชุม และห้องสัมมนา อีกทั้งยังมีกิจกรรมภายในศูนย์การค้า เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการสานสัมพันธ์อันดีร่วมกับคู่ค้า และการส่งเสริมความรู้ต่างๆในการประกอบธุรกิจ มาพร้อมกับเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นค้าส่ง PhenixBox ครั้งแรกของประเทศไทยและภูมิภาค ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งผู้ค้าส่งและลูกค้า ด้วยรูปแบบ Omni Channel ที่ช่วยให้ลูกค้าหลายล้านคนทั่วโลกสามารถเข้าถึงสินค้าได้จากทุกที่ สะดวกและปลอดภัย สร้างโอกาสการขายสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง มีทางเลือกและราคาคุ้มค่าให้กับลูกค้า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่ที่สามารถมองหาสินค้าที่ดีได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
หากสนใจเข้ามาเป็นผู้ค้าส่งกับเรา สามารถสอบถามรายละเอียดได้ตามข้อมูลด้านล่าง
พร้อมทั้งผู้ที่อยากจะเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ยังสามารถ
เปิดหน้าร้านออนไลน์ฟรี…วันนี้ที่ https://aectradecenter-th.com/whyExhibit/#registerexhibit
รวมบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ผู้ค้าส่ง
- ไขให้กระจ่าง! ความแตกต่างระหว่างผู้ค้าส่งกับผู้จัดจำหน่ายมีอะไรบ้าง?
- มาทำความรู้จักความหมายของผู้ค้าส่ง หรือ “ยี่ปั๊ว” และประเภทของผู้ค้าส่ง
- เมื่อเป็นผู้ค้าส่งที่ AEC TRADE CENTER – PANTIP WHOLESALE DESTINATION จะได้ประโยชน์อย่างไร?
- ผู้ค้าส่งควรปรับตัวอย่างไร? หลังวิกฤตโควิด-19 ให้ธุรกิจอยู่รอด
- ทำความรู้จัก “การค้าส่ง” รูปแบบธุรกิจน่าจับตามองในยุคดิจิทัล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
AEC TRADE CENTER-PANTIP WHOLESALE DESTINATION
💻 Website: https://aectradecenter-th.com/
💻 Website: https://www.phenixbox.com/
👥 Facebook: https://www.facebook.com/aecpantip
📩 Inbox: https://www.facebook.com/messages/t/aectradecenter.th
💬 Line: @aecpantip
📞 : 061-416-6790, 065-950-5986