การทำอาหารไทยหรือแม้แต่ชาติอื่น ๆ จะมีส่วนประกอบอย่าง “น้ำมันประกอบอาหาร” ที่นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและไม่อาจขาดส่วนประกอบอย่างน้ำมันทำอาหารไปได้ โดยน้ำมันปรุงอาหารไม่ได้หน้าที่เพียงแค่ช่วยให้รสชาติของอาหารล้ำเลิศมากขึ้น แต่ยังเต็มไปด้วยประโยชน์ของน้ำมันแต่ละชนิดที่เป็นส่วนช่วยทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น
ซึ่งน้ำมันประกอบอาหารวัตถุดิบหลักสำหรับเมนูของทอดกินเล่นขายดีสามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ จากแหล่งค้าส่งขนาดใหญ่อย่าง AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM ที่พร้อมมอบสินค้าคุณภาพเกินราคาให้แก่ผู้ซื้อในทันที
น้ำมันประกอบอาหารมีทั้งหมดกี่ประเภท?
รู้หรือไม่ว่าน้ำมันประกอบอาหารที่เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับร้านอาหารทั้งในรูปแบบค้าปลีกและค้าส่งไม่ได้มีเพียงแค่ชนิดเดียวเท่านั้น โดยน้ำมันประกอบอาหารจะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ น้ำมันจากพืชและน้ำมันจากสัตว์ ซึ่งน้ำมันทั้งสมองประเภทนี้เหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่? ไปดูพร้อม ๆ กันได้เลย
น้ำมันทำอาหารจากพืช
น้ำมันประกอบอาหารที่ทำมาจากพืชนั้น ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว โดยกรดไขมันไม่อิ่มตัวนี้นับว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามาก ๆ เพราะไขมันไม่อิ่มตัวจะเป็นไขน้อยและสามารถทำปฏิกิริยากับความร้อนได้ง่าย ซึ่งการใช้น้ำมันพืชในการประกอบอาหารอาจจะมีกลิ่นหืนหลังใช้ถูกใช้งานแล้ว
น้ำมันทำอาหารจากสัตว์
น้ำมันปรุงอาหารที่ทำมาจากสัตว์คือน้ำมันที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น น้ำมันหมู โดยในน้ำมันหมูจะมีองค์ประกอบเป็นกรดไขมันอิ่มตัว เป็นไขในที่เย็น ๆ ได้ง่าย อีกทั้งยังเกิดกลิ่นหืนได้ง่ายมากหากเราวางน้ำมันหมูไว้ในที่อุณหภูมิปกติ นอกจากนี้น้ำมันที่ทำมาจากสัตว์ยังมีคอเลสเตอรอล ดังนั้นจึงควรระมัดระวังการกินน้ำมันประเภทนี้ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคที่มีความสัมพันธ์กับคอเลสเตอรอลนั่นเอง
ทำความรู้จักกับน้ำมันประกอบอาหารแต่ละชนิด
นอกจากน้ำมันทำอาหารจะมีหลายประเภทแล้วก็ยังมีหลากหลายชนิดอีกด้วย นับว่าน้ำมันประกอบอาหารได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด ด้วยการคิดค้นและผลิตน้ำมันออกมาสู่ตลาดหลากหลายชนิด ซึ่งชนิดของน้ำมันจะมีอะไรบ้าง? และประโยชน์ของน้ำมันแต่ละชนิดน่าสนใจมากเพียงใด? ตามไปดูกันได้เลย
น้ำมันมะกอก (Olive Oil)
น้ำมันมะกอก (Olive Oil) เป็นน้ำมันพืชที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวมากที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ โดยน้ำมันมะกอกที่นิยมใช้ในการประกอบอาหารจะมีอยู่ 3 ประเภท คือ Extra Virgin Olive Oil, Pure Olive Oil และ Light Olive Oil ซึ่งทั้ง 3 ประเภทนี้จะนำไปใช้ในการประกอบอาหารแตกต่างกัน ดังนี้
- Extra Virgin Olive Oil มักจะใช้สำหรับการทำน้ำสลัด
- Pure Olive Oil มักจะใช้สำหรับทำเมนูผัดที่ใช้เวลาไม่นาน
- Light Olive Oil มักจะใช้สำหรับเมนูทอดหรือผสมซอส
ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก
เรียกได้ว่าน้ำมันมันมะกอกทั้ง 3 ประเภทนั้น สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งเมนูทอด ผัด หรือการทำซอส ซึ่งน้ำมันมะกอกนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง? ขอบอกเลยว่ามีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยแก้อาการท้องผูก
- ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
- ช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารให้ดีขึ้น
- ช่วยลดความดันโลหิตสูง
- ช่วยลดภาวะไขมันในเลือดสูง
- ช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
- มีผลดีต่อระบบหมุนเวียนเลือด
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ
น้ำมันถั่วเหลือง
น้ำมันประกอบอาหารอย่างน้ำมันถั่วเหลืองนั้น คือน้ำมันทำมาจากพืชและมีระดับกรดไขมันอิ่มตัวปานกลาง โดยเมื่อเราใช้น้ำมันถั่วเหลืองพร้อมกับความร้อนสูง ๆ ก็จะทำให้น้ำมันถั่วเหลืองมีสารอนุมูลอิสระ ดังนั้นน้ำมันถั่วเหลืองจึงไม่เหมาะกับการใช้กับความร้อนสูง แต่เหมาะกับการทำอาหารที่ใช้ความร้อนระดับปานกลาง เช่น เมนูผัด เป็นต้น
ประโยชน์ของน้ำมันถั่วเหลือง
น้ำมันถั่วเหลืองมาพร้อมกับประโยชน์มากมาย เรียกได้ว่าเพียงใช้น้ำมันถั่วเหลืองประกอบอาหารร่างกายของเราก็จะได้รับคุณประโยชน์เหล่านี้ในทันที
- ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของดวงตา
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
- ช่วยลดการอักเสบของข้อกระดูก
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย
- ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง
น้ำมันเมล็ดทานตะวัน
น้ำมันเมล็ดทานตะวันเป็นน้ำมันจากพืชที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาและไม่มีกลิ่น โดยน้ำมันเมล็ดทานตะวันจะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย เหมาะกับคนรักสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งน้ำมันประเภทนี้จะนิยมนำมาใช้ในเมนูผัดและทำน้ำสลัดนั่นเอง
ประโยชน์ของน้ำมันเมล็ดทานตะวัน
การเลือกใช้น้ำมันเมล็ดทานตะวันในการปรุงอาหารนั้น รับรองว่าจะไม่ผิดหวังในรสชาติและประโยชน์ที่จะได้รับจากน้ำมันชนิดนี้แน่นอน เพราะน้ำมันเมล็ดทานตะวันมาพร้อมกับประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหาร
- ช่วยเพิ่มพลังงาน
- ช่วยเสริมให้หัวใจแข็งแรง
น้ำมันรำข้าว
น้ำมันประกอบอาหารอย่างน้ำมันรำข้าวจะมีสารโอรีซานอลที่มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระและมีความสามารถในการป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชั่น เมื่อเลือกใช้น้ำมันรำข้าวจึงไม่จำเป็นต้องใส่สารกันหืนนั่นเอง ซึ่งน้ำมันชนิดนี้นิยมนำมาใช้ทำอาหารสุขภาพ ใช้สำหรับผัด ทอด หรือน้ำสลัด
ประโยชน์ของน้ำมันรำข้าว
ประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวนั้นมีอยู่มากมาย เพราะน้ำมันรำข้าวมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและเหมาะกับผู้ที่ต้องการกินอาหารสุขภาพมาก ๆ ซึ่งประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวมีดังนี้
- ช่วยให้การเผาผลาญดีขึ้น
- ช่วยคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย
น้ำมันปาล์ม
น้ำมันปาล์มเป็นหนึ่งในน้ำมันประกอบอาหารที่นิยมนำใช้งานเป็นอันดับต้น ๆ เพราะหาได้ง่ายและมีราคาถูก โดยน้ำมันปาล์มเหมาะสำหรับทำอาหารเมนูทอด เช่น ไก่ทอด หมูทอด ปลาทอด และอื่น ๆ อีกมากมาย
ประโยชน์ของน้ำมันปาล์ม
แม้ว่าน้ำมันปาล์มจะมีราคาถูกและหาได้ค่อนข้างง่ายกว่าน้ำมันชนิดอื่น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าน้ำมันชนิดนี้เต็มไปด้วยประโยชน์มากมายไม่น้อยหน้าน้ำมันชนิดอื่น ๆ ซึ่งประโยชน์ที่เราจะได้จากน้ำมันปาล์มนั้นมีดังนี้
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยเสริมสร้างเซลล์ให้แข็งแรง
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ช่วยบำรุงประสาทและสมอง
น้ำมันงา
หนึ่งในน้ำมันประกอบอาหารที่พบได้บ่อย ๆ นั่นก็คือน้ำมันงา โดยน้ำมันงานั้นเป็นน้ำพืชที่บริสุทธิ์ จึงเป็นน้ำมันชนิดที่สามารถคงคุณค่าทางสารอาหารไว้ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งน้ำมันงาเหมาะกับนำมาใช้สำหรับเมนูจี่ หมัก หรือผัด เพราะจะช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอมนั่นเอง
ประโยชน์ของน้ำมันงา
นอกจากน้ำมันงาจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้แก่อาหารเมนูต่าง ๆ แล้วยังอุดมไปด้วยวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นจำนวน ซึ่งเมื่อเราเลือกใช้น้ำมันงาในการประกอบอาหารก็จะได้รับประโยชน์ดังนี้
- ช่วยผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง
- ช่วยเผาผลาญอาหาร ทองแดงนอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักสำหรับคุณสมบัติต้านการ
- ช่วยลดอักเสบและอาการปวดข้อ
- ช่วยเสริมสร้างกระดูก
น้ำมันคาโนลา
น้ำมันคาโนลาคือน้ำมันประกอบอาหารที่ได้มาจากต้นคาโนลาที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศแคนาดา โดยน้ำมันคาโนลานั้น เหมาะกับการทำอาหารคลีนหรืออาหารเพื่อสุขภาพ และมักจะเห็นได้บ่อย ๆ ว่าน้ำมันชนิดนี้จะถูกใช้กับเมนูขนมปัง เค้ก ช็อกโกแลต เมนูผัด และน้ำสลัดนั่นเอง
ประโยชน์ของน้ำมันคาโนลา
แม้ว่าน้ำมันคาโนลาอาจจะไม่ได้รับความนิยมมากในไทย แต่ขอบอกเลยว่าน้ำมันชนิดนี้มาพร้อมกับประโยชน์มากกว่าที่เราคาดคิด และควรจะหาโอกาสลองนำน้ำมันคาโนลามาใช้ปรุงอาหารสักครั้ง ซึ่งเราจะได้รับประโยชน์จากน้ำมันคาโนลาดังนี้
- ช่วยลดไขมันไตรกลีเซอไรด์
- ช่วยลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด
- ช่วยลดคอเลสเตอรอล
น้ำมันมะพร้าว
หนึ่งในน้ำมันประกอบอาหารนั่นก็คือน้ำมันมะพร้าวที่สามารถนำมาใช้ปรุงอาหารได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นหืน และยังมีกรดไขมันอิ่มตัวที่ช่วยดูดซึมวิตามินเข้าสู่ร่างกายได้ทันที อีกทั้งน้ำมันมะพร้าวจะทำให้เราอิ่มเร็วขึ้นอีกด้วย ซึ่งน้ำมันมะพร้าวเหมาะกับการใช้ปรุงอาหารเมนูปิ้ง ย่าง อบ ทอด และผัด
ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่สามารถใช้สำหรับการทำอาการได้หลากหลายรูปแบบและยังมาพร้อมกับประโยชน์ต่าง ๆ ที่สามารถทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ช่วยให้กระดูกแข็งแรง
- ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน
น้ำมันข้าวโพด
น้ำมันทำอาหารอย่างน้ำมันข้าวโพดนั้นอุดมไปด้วยกรดไขมันที่ต่อสุขภาพของเรา มีแคลอรีต่ำ เมื่อนำไปปรุงอาหารแล้วจะมีกลิ่นหอม แถมยังเพิ่มสีสันให้กับอาหารอีกด้วย ดังนั้นน้ำมันข้าวโพดจึงนิยมนำมาใช้สำหรับเมนูทอดนั่นเอง
ประโยชน์ของน้ำมันข้าวโพด
น้ำมันข้าวโพดเป็นหนึ่งในน้ำมันทำอาหารที่มาพร้อมกับคุณค่าทางอาหารมากมาย ซึ่งเมื่อเราเลือกใช้น้ำมันข้าวโพดในการปรุงอาหารก็จะได้รับประโยชน์ต่าง ๆ ดังนี้
- ช่วยลดคอเลสเตอรอล
- ช่วยบำรุงหัวใจ
- ช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหาร
- ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
น้ำมันอะโวคาโด
น้ำมันอะโวคาโดเป็นน้ำมันจากพืชที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่ต้องยอมรับว่าน้ำมันชนิดนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นน้ำมัน Superfood หรือ น้ำมันที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งน้ำมันอะโวคาโดจะนิยมใช้ในการย่างเนื้อชั้นดี ปรุงอาหารที่ใช้ไฟแรง หมักเนื้อ หรือทำน้ำสลัด
ประโยชน์ของน้ำมันอะโวคาโด
น้ำมันที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Superfood แน่นอนว่าจะต้องมาพร้อมกับประโยชน์ที่มาจากสารอาหารมากมายที่รวมตัวกันอยู่ในน้ำมันอะโวคาโด ซึ่งประโยชน์ที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง? ไปดูพร้อมกันเลย
- ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยลดคอเลสเตอรอล
- ช่วยดูดซึมสารอาหาร
- ช่วยบำรุงดวงตา
น้ำมันหมู
น้ำมันหมูเป็นน้ำมันประกอบอาหารที่ได้มาจากหมู มีกรดไขมันอิ่มตัวและไขมันไม่อิ่มตัวสูง โดยน้ำมันหมูนั้นจะสามารถทนความร้อนได้ดี จึงเหมาะสำหรับการใช้ปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนสูงอย่างเมนูทอดต่าง ๆ รวมถึงเมนูผัดด้วยเช่นกัน
ประโยชน์ของน้ำมันหมู
น้ำมันที่ได้มาจากสัตว์อย่างมันหมูนั้น นอกจากจะทำอาหารได้หลากหลายเมนูและช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อยให้กับเมนูต่าง ๆ ได้แล้ว ก็ยังสามารถช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรงและปลอดภัยจากโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งประโยชน์ที่มาพร้อมกับน้ำมันหมูที่เราจะรับมีดังนี้
- ช่วยลดคอเลสเตอรอล
- ช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลดี
- ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็ง
เลือกซื้อน้ำมันสำหรับประกอบอาหารในราคาสุดคุ้ม
เมื่อทำความรู้จักกับน้ำมันประกอบอาหารชนิดต่าง ๆ และทราบถึงประโยชน์ของน้ำมันเหล่านั้นกันเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าคงอยากจะลองนำน้ำมันที่ไม่เคยใช้มาลองทำอาหารกันบ้างแล้ว โดยเราขอแนะนำศูนย์ค้าส่งที่ช่วยให้เราสามารถซื้อน้ำมันต่าง ๆ ได้แบบคุ้มค่าอย่าง AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM ที่มาพร้อมกับร้านค้าราคาส่งมากมาย แถมยังมีแพลตฟอร์มที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่จะช่วยให้การชอปปิงวัตถุดิบทำอาหารอย่างน้ำมันมะกอกธรรมชาตินั้นง่ายมากยิ่งขึ้นอย่าง PhenixBox ซึ่งฟีเจอร์หลักจากแพลตฟอร์มมีดังนี้
- รวมกลุ่มกันซื้อถูกกว่า (Group Purchase)
- แหล่งรวบรวมข้อมูลผู้ขาย (Seller Store)
- แค็ตตาล็อกออนไลน์ (E-Catalog)
ซื้ออุปกรณ์ทำอาหารคุณภาพดีส่งตรงจากจีน
นอกจากที่ศูนย์ค้าส่ง AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM จะเต็มไปด้วยร้านค้าราคาส่งหลากหลายร้านแล้วนั้น ก็ยังมีศูนย์จัดแสดงสินค้าที่รวบรวมสินค้าคุณภาพดีจากประเทศจีนมาไว้ที่ศูนย์ค้าส่งแห่งนี้อย่าง Yiwu Selection Thailand Showcase ที่จะช่วยให้การเลือกซื้ออุปกรณ์ทำอาหารง่ายมากขึ้นและรับรองว่าคุณภาพของสินค้าประเภทต่าง ๆ จาก Yiwu Selection Thailand Showcase นั้นมีมาตรฐานในระดับสากล เช่น เครื่องย่างไฟฟ้า เครื่องย่างบาร์บีคิวอัตโนมัติ เครื่องปั่นมือ เป็นต้น
….ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook: @Yiwuselection.th หรือ LineOA: @YiwuselectionTH
เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถนำน้ำมันประกอบอาหารชนิดต่าง ๆ ไปใช้ในการทำอาหารได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งน้ำมันทำอาหารยังมาพร้อมกับประโยชน์ของน้ำมันแต่ละชนิดที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าน้ำมันปรุงอาหารมีทั้งสารอาหารที่ดี แถมยังเพิ่มความอร่อยให้กับอาหารได้อย่างแท้จริง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำมันทำอาหารชนิดต่าง ๆ อุปกรณ์ทำอาหาร หรือการเช่าพื้นที่
- Website: https://aectradecenter-th.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/aecpantip
- Inbox: https://www.facebook.com/messages/t/aectradecenter.th
- Line: @aecpantip
- หรือโทร. ติดต่อเช่าพื้นที่ 062-591-4053, 062-196-1614