การเกิดวิกฤตโควิด-19 ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกและทำให้เกิดอุปสรรคให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย เนื่องมาจากการหดตัวของเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยว การโรงแรม หรือการผลิต รวมไปถึงการขายปลีกและขายส่งอีกด้วย เพื่อให้อยู่รอดได้นั้นต้องอาศัยการปรับอย่างรวดเร็ว ตรงจุด และทันสมัย
ผู้ค้าส่งในประเทศไทย สามารถทำอย่างไรเพื่อให้สามารถประคองธุรกิจให้อยู่รอดท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 นี้ได้ สามารถติดตามได้ในบทความนี้
ปรับเปลี่ยนธุรกิจให้เข้ากับ “เทรนด์” ลูกค้า
สำหรับผู้ค้าส่งส่วนใหญ่นั้น อาจเน้นทำธุรกิจกับลูกค้าที่เป็นผู้ค้าปลีกมากกว่าผู้บริโภคโดยตรง อย่างไรก็ตามเมื่อความนิยมในหมู่ผู้บริโภคเปลี่ยน ผู้ค้าปลีกต้องปรับตัวตาม ซึ่งส่งผลให้ร้านขายส่งทั้งรายย่อยและรายใหญ่จำเป็นต้องปรับตัวตามไปด้วย ผู้ค้าส่งอิสระที่มีการติดต่อกับโรงงานต้นน้ำอยู่แล้ว สามารถต่อรองดำเนินการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติสินค้าบางอย่างให้ตอบโจทย์มากขึ้น เช่น ในด้านความสะอาดของสินค้า ความปลอดภัย หรือจุดขายที่แตกต่างจากแหล่งขายส่งอื่นๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการค้าปลีกเข้ามาซื้อสินค้าขายส่งมากขึ้น
ปัจจุบันกระแสความเปลี่ยนแปลงที่สามารถเห็นได้ชัดเจนในประเทศไทยคือ “Aged Society” หรือสังคมผู้สูงวัย โดยจากสถิติในปี พ.ศ. 2562 ประชากรผู้สูงอายุในไทยมีมากถึง 11.6 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 17.5 ของประชากรทั้งหมดจำนวน 69.3 ล้านคน ซึ่งเป็นปีแรกที่มีจำนวนผู้สูงอายุมากกว่าเด็กอีกด้วย ทำให้ความต้องการสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุมีมากขึ้น อีกทั้งมีการซื้อขายสินค้าขายส่งเพื่อนำไปค้าปลีกในกับผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้ค้าส่งทั่วไปไม่ควรมองข้ามเทรนด์ผู้บริโภคสูงวัย เพื่อใช้เป็นไอเดียในการนำสินค้าขายส่งมาจำหน่ายต่อไป
อีกหนึ่งเทรนด์ที่แม้ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่เริ่มเป็นกระแสมากขึ้นหลังจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 คือเทรนด์ “Prosumer” ซึ่งมาจากคำว่า “Professional” บวกกับ “Consumer” โดย Prosumer คือ พฤติกรรมที่ผู้บริโภคหรือลูกค้ามีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ส่งผลให้ผู้คนอยู่บ้านและทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยตัวเอง โดยมีการหาซื้ออุปกรณ์มาประกอบเอง ซื้อวัตถุดิบอาหารมาทำเอง ซื้ออุปกรณ์ตกแต่งบ้านมาติดตั้งเอง หรือแม้กระทั่งพัฒนาสินค้าขึ้นมาใช้เอง ฯลฯ และในอนาคตต่อไปแนวโน้มการเป็น “Prosumer” จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นในสังคม ซึ่งก็มีผู้ผลิตและผู้ค้าส่งที่ปรับตัวเข้ากับกลุ่มผู้บริโภคใหม่นี้ได้แล้ว อาทิ แบรนด์ที่จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์แบบแยกชิ้นส่วนสำหรับประกอบเอง หรือร้านอาหารที่ขายชุดวัตถุดิบสำหรับปรุงเอง เป็นต้น ในฐานะผู้ค้าส่งก็สามารถที่จะขายส่งสินค้าแบบแยกชุดให้ลูกค้าได้เช่นเดียวกัน เป็นหนึ่งรูปแบบการค้าที่น่าสนใจอย่างมาก
เมื่อติดตามเทรนด์ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าได้ทัน ตอบโจทย์ได้ไว สร้างกำไรให้ธุรกิจไปต่อได้นั่นเอง
ทำธุรกิจแบบ Omni Channel ครอบคลุมทุกช่องทาง
ผู้ค้าส่งส่วนใหญ่อาจมีการปรับตัวเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางขายส่งที่สามารถช่วยประหยัดต้นทุนได้มากและสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้อีกด้วย แต่หากวิกฤตโควิด-19 นี้ผ่านพ้นไป การแข่งขันจะกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นการที่ร้านขายส่งจะสามารถอยู่รอดได้ ต้องทำธุรกิจแบบ Omni Channel สร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อให้กับลูกค้า หรือก็คือการที่ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อหน้าร้านออฟไลน์เข้ากับแพลตฟอร์มออนไลน์ได้นั่นเอง
ที่ AEC TRADE CENTER – PANTIP WHOLESALE DESTINATION ศูนย์ค้าส่งใจกลางกรุงเทพฯ แบบครบวงจรนั้น มีการจัดกิจกรรมค้าส่ง BEYOND EXHIBITION หมุนเวียนชนิดสินค้าตลอดทั้งปี ซึ่งผู้ค้าส่งสามารถเข้าร่วมเปิดหน้าร้านจำหน่ายสินค้าได้ ซึ่งเหนือกว่ากิจกรรมทั่วๆไป โดยมอบความสะดวกที่สุด ครบครันที่สุด และราคาดีที่สุด เข้าถึงลูกค้าได้โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง อีกทั้งยังช่วยผู้ประกอบการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น PhenixBox ขยายช่องทาง Omni Channel การขายแบบออนไลน์ เป็นพื้นที่สำหรับติดต่อธุรกิจ เชื่อมต่อหน้าร้านผ่านโลกออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้ผู้ประกอบการได้ลดต้นทุน ขยายฐานลูกค้าเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบ และได้รับโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น อีกทั้งมี Solution Service Center เครื่องมือที่ช่วยเปิดประสบการณ์โลกแห่งค้าส่งเหนือกว่าช่องทางอื่น ผ่านเครื่องมือช่วยขายสุด Exclusive อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนแก้ปัญหาให้กับธุรกิจค้าส่ง ผ่านบริการให้คำปรึกษาด้านการทำธุรกิจจากภาครัฐและเอกชน เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจให้ยั่งยืนและมั่นคงกว่าเดิม
เข้าสู่ตลาดอาเซียน สร้างฐานลูกค้าใหม่
รัฐบาลมีการประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ธุรกิจจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง รวมไปถึงธุรกิจขายส่งด้วยนั่นเอง ในการเปิดประเทศนี้เอง สินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านจะมีการเข้ามามากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ผู้ค้าส่งสามารถติดต่อธุรกิจนำสินค้ามีคุณภาพเข้ามาจำหน่ายได้ อีกทั้งยังมีฐานลูกค้าจากต่างประเทศเข้ามาซื้อสินค้าจากไทย
AEC TRADE CENTER – PANTIP WHOLESALE DESTINATION ได้มีการสนับสนุนการค้าส่ง โดยได้ร่วมพันธมิตรกับผู้พัฒนาและบริหารตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดจากประเทศจีน (อี้อู) เพื่อนำสินค้าคุณภาพดีเข้ามาในราคาที่ดีที่สุด ช่วยหนุนหลังผู้ประกอบการ เชื่อมโยงตลาดไทยกับตลาดจีน ให้คนไทยได้ราคาต้นน้ำโดยไม่ต้องบินไปถึงประเทศจีน เป็นการพัฒนาการค้าขายจากยุคเดิมสู่ธุรกิจรูปแบบใหม่
ทั้งการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้เข้ากับเทรนด์ผู้บริโภคใหม่ๆ การหันมาใช้ช่องทางแบบ Omni Channel จะทำให้ผู้ค้าส่งสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงหลังวิกฤตโควิด-19 และเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่งที่สนใจร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรของเราในกิจกรรมแรก ด้านธุรกิจอาหารภายในงาน “BEYOND EXHIBITION – FOOD DESTINATION CENTER” งานค้าส่งอาหารและบริการที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี
รวมบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ผู้ค้าส่ง
- ไขให้กระจ่าง! ความแตกต่างระหว่างผู้ค้าส่งกับผู้จัดจำหน่ายมีอะไรบ้าง?
- มาทำความรู้จักความหมายของผู้ค้าส่ง หรือ “ยี่ปั๊ว” และประเภทของผู้ค้าส่ง
- เมื่อเป็นผู้ค้าส่งที่ AEC TRADE CENTER – PANTIP WHOLESALE DESTINATION จะได้ประโยชน์อย่างไร?
- ผู้ค้าส่งควรปรับตัวอย่างไร? หลังวิกฤตโควิด-19 ให้ธุรกิจอยู่รอด
- ทำความรู้จัก “การค้าส่ง” รูปแบบธุรกิจน่าจับตามองในยุคดิจิทัล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
AEC TRADE CENTER – PANTIP WHOLESALE DESTINATION
💻 Website: https://aectradecenter-th.com/
📩 Inbox: https://www.facebook.com/messages/t/aectradecenter.th
💬 Line: @aecpantip
📞 : 061-416-6790, 065-950-5986