การเริ่มธุรกิจออนไลน์ในช่วงเวลานี้ถือว่าทำได้ง่ายมาก เพียงแค่หาแหล่งสินค้าขายส่งและนำไปจำหน่ายบนช่องทางโซเชียลหรือเว็บไซต์ก็เปิดกิจการได้แล้ว ส่วนใครที่มีพื้นที่ก็อาจจะทำเป็นหน้าร้านค้าเพื่อขายของเลยทันที แต่ว่าการเลือกสินค้ามาเพื่อเป็นตัวชูโรงในการขายนั้นจะต้องดูปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบด้วย เช่น ขนาด คุณภาพ ราคาต้นทุน จำนวน ฯลฯ เพื่อให้เลือกสินค้าได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค โดยบทความนี้จะมาแนะนำ 5 ช่องทางหาสินค้าขายส่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรพลาด จะมีช่องทางใดบ้างมาทราบพร้อมกันเลย
1.สั่งสินค้าจากต่างประเทศ
การพรีออเดอร์สินค้านับเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่นับว่าเป็นสินค้าขายส่งที่ได้รับความนิยมในเมืองไทยอย่างมาก เนื่องจากมีราคาสินค้าต่อชิ้นที่ไม่แพง หากสั่งถึงขั้นต่ำก็สามารถที่จะใส่โลโก้แบรนด์ได้หรืออาจสั่งผลิตบรรจุภัณฑ์รวมด้วยได้ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่อยากจะสร้างแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเองหรือหาสินค้ามาขาย อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสที่จะเจอสินค้าที่แตกต่างจากภายในประเทศได้ อย่างไรก็ตาม การสั่งสินค้าจากจีนก็อาจมีปัญหาตามมาได้ เช่น ปัญหาจากการติดต่อสื่อสาร ราคาค่าส่งหรือภาษีสูงเกินที่ประเมินไว้ คุณภาพของสินค้า ฯลฯ
2.ติดต่อกับโรงงานผู้ผลิต
การติดต่อโรงงานผู้ผลิตโดยตรงนั้นนับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีต้นทุนสูง ซึ่งการติดต่อไปยังโรงงานผลิตโดยตรงนั้นจะทำให้ได้สินค้าในราคาประหยัดและผลิตได้แบบเจาะจง ตรงกับความต้องการของแบรนด์ โดยเฉพาะสินค้าประเภทสกินแคร์ อาหารเสริม หรือแม้แต่เสื้อผ้า ที่สามารถออกแบบมาได้ตรงความต้องการของผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตามการติดต่อกับโรงงานผู้ผลิตโดยตรงนั้นจำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบคุณภาพก่อนตัดสินใจ รวมถึงอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ หรืออาจจะต้องดำเนินการต่อ เช่น การขอใบรับรอง การทดสอบคุณภาพสินค้า หรือค่าบรรจุภัณฑ์ต่างๆ
3.แหล่งร้านขายส่ง
อีกหนึ่งแหล่งที่จะได้พบเจอสินค้าขายส่ง โดยแต่ละแหล่งก็จะมีกลุ่มสินค้าแต่ละประเภทแตกต่างกันไป เช่น ถ้าต้องการขายเสื้อผ้าแฟชั่นก็อาจจะไปที่แพลตินั่ม ประตูน้ำ หรือตลาดโบ๊เบ๊ หากจะเคสหรืออุปกรณ์มือถือก็ควรไปเสือป่าพลาซ่า หรือถ้าอยากซื้อผ้าก็ต้องไปพาหุรัด การไปตามแหล่งขายส่งเหล่านั้น ก็จะพบร้านค้าหลากหลายแห่ง ได้สินค้าราคาส่ง สามารถเปรียบเทียบกับร้านค้าอื่นๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ร้านขายส่งประเภทนี้ก็อาจจะไม่สามารถออกใบเสร็จเต็มรูปแบบได้หรือไม่สามารถที่จะผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการได้อย่างถ่องแท้
4.งานนิทรรศการแสดงสินค้า
เป็นกิจกรรมที่จะมีจัดขึ้นเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี โดยแต่ละงานก็อาจมีประเภทสินค้าที่แตกต่างกันไป เช่น งานแสดงเฟอร์นิเจอร์ งานแสดงสินค้าสำหรับร้านชำ งานแสดงสินค้าเกี่ยวกับอาหาร ฯลฯ โดยจะขึ้นอยู่กับผู้จัดในแต่ละงานว่าสินค้าหลักจะเป็นประเภทใด การเดินดูงานแสดงสินค้าเหล่านั้นจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถพูดคุยธุรกิจขายส่งได้โดยตรงได้ สามารถสร้างพันธมิตรทางธุรกิจได้ อีกทั้งในร้านค้าที่จัดแสดงนั้นยังมีโปรโมชันดีๆ ที่มอบให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงยังสามารถเปรียบเทียบสินค้า คุณภาพและราคาได้ในงานอีกด้วย ทว่าในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จึงไม่ได้มีการจัดงานแสดงสินค้าประเภทต่างๆ มากเท่าที่ควร
5.ศูนย์ค้าส่ง ช่องทางที่เข้าถึงได้ง่ายและครบที่สุด
ปัจจุบันนี้ประเทศไทยได้มีศูนย์ค้าส่งที่รวบรวมสินค้าขายส่งทุกประเภทไว้ในที่เดียวกัน นั่นก็คือ AEC TRADE CENTER ซึ่งเป็นศูนย์การค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน มีกลุ่มสินค้าหลากหลายแบบ รวบรวมมาให้ผู้ประกอบการหรือคนอยากทำธุรกิจสามารถเข้ามาเลือกซื้อสินค้า ตลอดจนพัฒนาไปเป็นพันธมิตรทางธุรกิจได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับเว็บและแอปพลิเคชัน PhenixBox ที่เป็นแพลตฟอร์มรวมสินค้าขายส่ง สะดวกต่อผู้ใช้งาน สามารถค้นหาและสั่งซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้ง 5 ช่องทางการหาสินค้าขายส่งที่ได้แนะนำไป แต่ละแหล่งก็จะมีข้อได้เปรียบข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป ซึ่งหากผู้ประกอบการท่านใดที่ต้องการหาสินค้าขายส่งคุณภาพดีสามารถแวะเวียนมาที่ AEC TRADE CENTER ศูนย์ค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ สามารถเดินทางโดยง่าย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
เกี่ยวกับ AEC TRADE CENTER
AEC TRADE CENTER คือแหล่งค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน แต่เดิมเคยเป็นพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นแหล่งค้าส่งที่รวมสินค้าที่มีคุณภาพเข้ามาไว้เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงสินค้าที่ได้มาตรฐาน ครบครันที่สุด และสามารถตอบโจทย์ทั้งผู้ค้าส่งและผู้ซื้อ พร้อมเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นค้าส่ง PhenixBox ด้วยรูปแบบ Omni Channel เจ้าแรกและเจ้าเดียวแห่งโลกค้าส่งในประเทศไทย ที่สร้างขึ้นมาเฉพาะเพื่อผู้เช่าพื้นที่ภายในศูนย์ค้าส่ง เพื่อขยายช่องทางการติดต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเชื่อมต่อหน้าร้านผ่านโลกออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
แนวคิดของ BEYOND EXHIBITION ของศูนย์ค้าส่ง AEC TRADE CENTER เป็นการค้าส่งรูปแบบใหม่ให้กับกลุ่มผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศ แนวคิดดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อสร้างโอกาส ลดต้นทุนให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ ผู้ซื้อและผู้ขาย เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจได้เข้ามาพบปะเจรจา เพื่อขยายฐานลูกค้า เพื่อสร้างกิจกรรมการค้าส่งในรูปแบบต่างๆทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ที่โดดเด่นกว่าศูนย์ค้าส่งทั่วไป โดยมอบข้อเสนอพิเศษ สิทธิพิเศษ และการอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจแบบครบถ้วน
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่งที่สนใจร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรด้านธุรกิจอาหารภายในงาน “BEYOND EXHIBITION – FOOD DESTINATION CENTER”
บทความเกี่ยวกับ สินค้าขายส่ง
- เทคนิคเลือก “สินค้าขายส่ง” อย่างไรให้กำไรงาม
- 5 แหล่งรวมสินค้าขายส่งภายในประเทศที่ต้องแวะไปให้ได้สักครั้ง!
- เคล็ด (ไม่) ลับ การเลือกสินค้าขายส่งมาจำหน่าย สร้างกำไรอย่างยั่งยืน!
- เปิด 5 ช่องทางหาสินค้าขายส่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรพลาด
- 7 เทคนิคขายส่ง ขายอย่างไรให้ลูกค้าติดใจ
- ตามหาสินค้าราคาส่งจากแหล่งไหนดีที่สุด?
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
AEC TRADE CENTER-PANTIP WHOLESALE DESTINATION
💻 Website: https://aectradecenter-th.com/
📩 Inbox: https://www.facebook.com/messages/t/aectradecenter.th
💬 Line: @aecpantip
📞 : 061-416-6790, 065-950-5986